PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

บริการบริษัท
ข้อควรคำนึงถึง

 
   
 
 
 
 

1.) ในกรณีที่หลักประกันของลูกค้าลดลงต่ำกว่า MM แต่สูงกว่าระดับบังคับล้างสถานะ ลูกค้าจะไม่สามารถเปิดสถานะสัญญาใหม่ได้
และจะต้องนำเงินมาวางเพิ่มให้กลับไปสู่ระดับ IM ภายในเวลา 15:00 น. ของวันทำการถัดไป (T+1)

 

 

2.) ถ้าหากลูกค้าไม่นำเงินมาวางภายในเวลาดังกล่าว บริษัทจะบังคับปิดสถานะสัญญาของลูกค้าบางส่วนหรือทั้งหมด ภายในเวลา
10:45 น. ของอีกวันทำการถัดไป (T+2) เพื่อรักษาระดับหลักประกันของลูกค้าให้ไม่ต่ำกว่าระดับ IM ซึ่งคำนวณ ณ สิ้นวัน T หรือ T+1 แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

 

3.) และลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมากกว่าจำนวนเงินวางประกันทั้งหมดที่ลูกค้าได้วางไว้ และลูกค้าต้องชำระยอดเงินดังกล่าวเพิ่มให้แก่บริษัท ภายในวันทำการถัดไป

4.) หากในวันทำการที่ T+1 มูลค่าของหลักประกันเพิ่มขึ้นจนทำให้มูลค่าบังคับปิดสถานะลดลง บริษัทจะใช้ยอด ณ สิ้นวันที่ T+1 นำมาบังคับปิดสถานะในวันที่ T+2 อย่างไรก็ดี ลูกค้าจะต้องวางเงินประกันเพิ่มเข้ามาเท่ากับส่วนลดของมูลค่าบังคับปิดสถานะที่เกิดขึ้นในวันทำการที่ T+2 มิฉะนั้นจะไม่สามารถเปิดสถานะเพิ่มได้อีก

ตัวอย่างที่ 1

สิ้นวันที่ T ลูกค้าถูกเรียกหลักประกันเพิ่มที่ 180,000 บาท
วันที่ T+1 ลูกค้าไม่วางเงิน และไม่ปิดสถานะบางส่วน/ทั้งหมด ทำให้
สิ้นวันที่ T+1 ลูกค้าถูกเรียกหลักประกันเพิ่มเป็น 240,000 บาท
วันที่ T+2 ภายใน 10:45 น. ลูกค้าจะถูกบังคับปิดสถานะจำนวน 240,000 บาท

 

ตัวอย่างที่ 2

สิ้นวันที่ T ลูกค้าถูกเรียกหลักประกันเพิ่มที่ 180,000 บาท
วันที่ T+1 ลูกค้าไม่วางเงิน และไม่ปิดสถานะบางส่วน/ทั้งหมด ทำให้
สิ้นวันที่ T+1 ลูกค้าถูกเรียกหลักประกันลดลงเป็น 80,000 บาท
วันที่ T+2 ภายใน 10:45 น. ลูกค้าจะถูกบังคับปิดสถานะจำนวน 80,000 บาท
และลูกค้าต้องวางเงินประกันเพิ่มเข้ามาอีก 100,000 บาทในวันที่ T+2 ด้วย 
มิฉะนั้นจะไม่สามารถเปิดสถานะเพิ่มได้

 
 
 

1.) ในกรณีที่หลักประกันของลูกค้าลดลงต่ำกว่า ระดับ IFCM ในช่วงเวลาทำการซื้อขายระหว่างวัน บริษัทอาจเรียกให้ลูกค้านำเงินมาวางเป็นหลักประกันเพิ่ม หรือปิดสถานะสัญญาบางส่วนหรือทั้งหมดเพื่อรักษาระดับเงินประกันให้ไม่ต่ำกว่า MM
 

2.) โดยลูกค้าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 นาที นับจากที่บริษัทได้แจ้งไปยังลูกค้าแล้ว หรือก่อนตลาดปิดทำการซื้อขายแล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาน้อยกว่า
 

3.) หากลูกค้าไม่นำเงินมาวางเพื่อเป็นหลักประกัน หรือ ปิดสถานะสัญญาบางส่วน หรือทั้งหมดภายในเวลาที่กำหนด บริษัทฯ จะทำการปิดสถานะสัญญาของลูกค้าบางส่วน หรือทั้งหมดภายในวันทำการนั้นๆ (T)
 

4.) ซึ่งลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้งจำนวน ซึ่งอาจจะมากกว่าจำนวนเงินวางประกันทั้งหมด ที่ลูกค้าได้วางไว้ และลูกค้าต้องชำระยอดเงินดังกล่าว เพิ่มเติมให้แก่บริษัทภายในวันทำการถัดไป

 
 
Limit Order การเสนอซื้อขายที่ระบุราคาเสนอซื้อขาย
Limit - FAK การเสนอซื้อขายที่ระบุราคาซื้อ / ขาย หากไม่สามารถจับคู่การซื้อขายได้เลย หรือจับคู่ได้บางส่วนและมีจำนวนเสนอซื้อขายเหลือบางส่วนให้ยกเลิกการเสนอซื้อขายที่ยังจับคู่ไม่ได้นั้นทันที
Limit - FOK การเสนอซื้อขายที่ระบุราคาซื้อ / ขาย หากไม่สามารถจับคู่การซื้อขายได้ทั้งหมด ตามจำนวนเสนอซื้อขายให้ยกเลิกการเสนอซื้อขายนั้นทันที
MO - FAK คำสั่งซื้อขายที่จับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามทุกระดับราคาตามลำดับราคาเสนอ หากซื้อหรือขายได้ไม่หมดทั้งจำนวนที่ต้องการ ส่วนที่เหลือจะถูกยกเลิก
MO - FOK คำสั่งซื้อขายที่จับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามทุกระดับราคาตามลำดับราคาเสนอ หากได้ไม่ครบก็จะไม่ซื้อขายเลย โดยจะยกเลิกคำสั่งนั้นไปทั้งหมด
MP - DAY คำสั่งซื้อขายที่จับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามทุกระดับราคาตามลำดับราคาเสนอ หากจับคู่ซื้อขายไม่หมด ระบบจะส่งคำสั่งให้โดยอัตโนมัติที่ราคาเสนอซื้อที่สูงกว่า หรือราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายสุดท้าย 1 ช่วงราคาซื้อขาย
ML - DAY คำสั่งซื้อขายที่การเสนอซื้อ ณ ราคาเสนอขายต่ำสุด หรือ เป็นการเสนอขาย ณ ราคาเสนอซื้อสูงสุดเพียงลำดับราคาเดียว หากจับคู่ไม่หมด ระบบจะส่งคำสั่งให้โดยอัตโนมัติที่ราคาซื้อขายสุดท้าย
Hidden Order
       1. การเสนอซื้อขายที่แบ่งการซื้อขายออกเป็นจำนวนย่อยๆ และทยอยนำส่งเข้าสู่ระบบการซื้อขายโดยอัตโนมัติ
       2. การเสนอซื้อขายในแต่ละครั้งต้องมีจำนวนอย่างน้อยตามที่ TFEX กำหนด (ครั้งละ 5-50 สัญญา
          เพิ่มได้ขั้นละ 1 สัญญา)
Combination Order
  1. การเสนอซื้อ และ/หรือ เสนอขาย 2 ซีรี่ส์พร้อมกัน
  2. การเสนอซื้อ และ/หรือ เสนอขายต้องสามารถจับคู่ได้พร้อมกัน
  3. การเสนอซื้อ และ/หรือ เสนอขายที่มีสินค้าอ้างอิงเดียวกัน หรือต่างกันก็ได้
  4. มีเดือนที่ชำระราคาหรือส่งมอบเดียวกัน หรือต่างกันก็ได้
  5. L S50U14Z14 หมายถึง Long S50Z14 และ Short S50U14
  6. ในการส่ง Combination Order ให้ระบุราคาเป็นส่วนต่างระหว่างราคาเดือนไกล กับราคาเดือนใกล้ โดยมีค่าระหว่าง 10.0 ถึง +100 จุด (โดย นำราคาของ Series ไกล ลบด้วย ราคาของ Series ใกล้)
เพิ่มเติม
กรณี Long Combo คือ การซื้อ Series เดือนไกล และ ขาย Series เดือนใกล้
กรณี Short Combo คือ การขาย Series เดือนไกล และ ซื้อ Series เดือนใกล้
 

เงื่อนไขของการเสนอซื้อขาย (Validity)

Stop Limit Order

1) คำสั่งซื้อขายที่ให้การเสนอซื้อขาย ณ ราคาที่ระบุไว้มีผลในระบบการซื้อายเมื่อราคาตลาดขณะนั้นเคลื่อนไหวมาถึงราคาที่กำหนด
2) เมื่อเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริงระบบจะนำ Limit Order เข้าสู่กระดานซื้อขาย
3) สามารถกำหนดเงื่อนไขโดยพิจารณาจากราคาซื้อขายล่าสุด (Last Done) หรือ ราคาเสนอซื้อสุดสุด (Best Bid Price) หรือ
ราคาเสนอขายต่ำสุด (Best Ask Price) ในขณะนั้น 

Stop Order

1) คำสั่งซื้อขายที่ให้การเสนอซื้อขาย ณ ราคาตลาดมีผลในระบบซื้อขาย เมื่อราคาตลาดขณะนั้นเคลื่อนไหวมาถึงราคาที่กำหนด
2) เมื่อเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริง ระบบจะนำ Market Order เข้าสู่กระดานซื้อขาย

ช่วงเวลาในการส่งคำสั่งแบบมีเงื่อนไขต่างๆ
 
Order Type
Pre - Open
 
Open
Day
FAK
FOK
DATE
EXP
Day
FAK
FOK
DATE
EXP
Limit Order
/
/
X
/
/
/
/
/
/
/
Market Order
/
/
X
/
/
X
/
/
X
X
Hidden Order
/
/
X
/
/
/
/
/
/
/
Stop Limit Order
/
/
/
/
/
/
/
/
/
/
Stop Order
/
/
/
/
/
X
/
/
X
X
Combination
X
X
X
X
X
/
/
/
X
X
 
 
EXCESS EQUITY BALANCE

MARGIN INFORMATION (PREVIOUS)
 
Equity Balance
 
  • วงเงินทั้งหมดที่ลูกค้ามี ณ ต้นวัน
  • = Previous Cash Balance + Previous Floating P&L
Excess Equity Balance หรือ EE
 
  • หมายถึงจำนวนเงินสดที่ลูกค้าสามารถถอนเงินได้ในระบบ BSB โดยที่ระบบ DTS ค่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน และไม่พันยอด Outstanding Orders
  • = Previous Cash Balance + Previous Floating P&L – Previous Margin Balance

MARGIN INFORMATION (CURRENT - EXPECTED)
 
Equity Balance
 
  • หมายถึง วงเงินทั้งหมดที่ลูกค้ามีโดยรวมถึงกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของตราสารอนุพันธ์ประเภท Futures โดยไม่รวมถึงกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของตราสารอนุพันธ์ประเภท Options
  • โดยระบบ DTS จะคำนวณให้จาก Position ที่มีอยู่ใน Port รวมกับ Outstanding Orders
  • = Previous Cash Balance – Expected Commission – Expected Vat + Realized Profit & Loss + Previous Floating P&L + Deposit – Withdrawal – Expected Long Options Premium + Expected Short Options Premium+ Current Unrealized P&L (Futures)
Excess Equity Balance หรือ EE
 
  • หมายถึง เป็นวงเงินที่ใช้ในการตรวจสอบว่า ลูกค้ามีวงเงินพอที่จะสั่งซื้อ order ใหม่ได้หรือไม่
  • โดยระบบ DTS จะคำนวณให้จาก Position ที่มีอยู่ใน Port รวมกับ Outstanding Orders
  • = Previous Cash Balance – Expected Commission – Expected Vat + Realized Profit & Loss + Previous Floating P&L + Deposit – Withdrawal – Expected Long Options Premium + Expected Short Options Premium – Current (Expected) Margin Balance
  • หาก Field “Mark To Market” ของลูกค้าคนนั้น ๆ = ‘Y’ ระบบจะปรับเปลี่ยนวิธีคิดคำนวณ Current Excess Equity Balance โดยรวม Current Unrealized P&L ของตราสารอนุพันธ์ประเภท Futures ไปในสูตรการคำนวณ
  • (=Previous Cash Balance – Expected Commission – Expected Vat + Realized Profit & Loss + Previous Floating P&L + Deposit – Withdrawal – Expected Long Options Premium + Expected Short Options Premium – Current (Expected) Margin Balance + Current Unrealized P&L (Futures))

MARGIN INFORMATION (CURRENT - PORT)
 
Equity Balance
 
  • หมายถึง วงเงินทั้งหมดที่ลูกค้ามีโดยรวมถึงกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของตราสารอนุพันธ์ประเภท Futures โดยไม่รวมถึงกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของตราสารอนุพันธ์ประเภท Options
  • โดยระบบ DTS จะคำนวณให้จาก Position เฉพาะที่มีอยู่ใน Port
  • = Previous Cash Balance – Actual Commission – Actual Vat + Realized Profit & Loss + Previous Floating P&L + Deposit – Withdrawal – Port Long Options Premium + Port Short Options Premium+ Current Unrealized P&L (Futures)
Excess Equity Balance หรือ EE
 
  • หมายถึง เป็นวงเงินที่ใช้ในการตรวจสอบว่า ลูกค้ามีวงเงินพอที่จะสั่งซื้อ order ใหม่ได้หรือไม่
  • โดยระบบ DTS จะคำนวณให้จาก Position เฉพาะที่มีอยู่ใน Port
  • = Previous Cash Balance – Actual Commission – Actual Vat + Realized Profit & Loss + Previous Floating P&L + Deposit – Withdrawal – Port Long Options Premium + Port Short Options Premium – Current (Port) Margin Balance
  • หาก Field “Mark To Market” ของลูกค้าคนนั้น ๆ = ‘Y’ ระบบจะปรับเปลี่ยนวิธีคิดคำนวณ Current Excess Equity Balance โดยรวม Current Unrealized P&L ของตราสารอนุพันธ์ประเภท Futures ไปในสูตรการคำนวณ
  • (=Previous Cash Balance – Actual Commission – Actual Vat + Realized Profit & Loss + Previous Floating P&L + Deposit – Withdrawal – Port Long Options Premium + Port Short Options Premium – Current (Port) Margin Balance + Current Unrealized P&L (Futures))
  
Buy Limit

Buy Limit
  • หมายถึงวงเงินอนุมัติที่กำหนดให้แก่ลูกค้าแต่ละคนในการ Open Position ของสัญญาตราสารอนุพันธ์โดยเมื่อเริ่มต้นเปิดบัญชีใหม่กำหนดค่า Buy Limit = Credit Line
  • ระบบ Derivatives Trading จะรับค่า Buy Limit ของลูกค้าแต่ละคนจากระบบ Back Office เพื่อ Load เข้าระบบทุก ๆ วันตอนเช้า และในระหว่างวันเจ้าหน้าที่สามารถเปลี่ยนแปลงค่า Buy Limit ของลูกค้าได้

High Limit      จะเช็คเมื่อ set Flag “High Limit” ≠ N/A*

Buy Limit และ High Limit       คิดแบบ Transaction ดังนี้
 
Cash Balance Checking Flag Margin Method Formula
Cash Balance Checking = “Y ‘1’ = Gross = Credit line
- ∑[Buy_limit_multiplier_Futures Underlying * Total (#LF,#SF) Underlying]
- ∑[Buy_limit_multiplier_Options Underlying * Total (#Short_Options) Underlying]
‘2’ = Net = Credit line
- ∑[Buy_limit_multiplier_Futures Underlying * Max (#LF,#SF) Underlying]
- ∑[Buy_limit_multiplier_Options Underlying * Max (#Short_Options) Underlying]
Cash Balance Checking = “N ‘1’ = Gross = Credit line
- ∑[Buy_limit_multiplier_Futures Underlying * Total (#LF,#SF) Underlying]
- ∑[Buy_limit_multiplier_Options Underlying * Total (#Short_Options) Underlying]
- ∑ Today_Long_options_premium Underlying 
‘2’ = Net = Credit line
- ∑[Buy_limit_multiplier_Futures Underlying * Max (#LF,#SF) Underlying]
- ∑[Buy_limit_multiplier_Options Underlying * Max (#Short_Options) Underlying]
- ∑ Today_Long_options_premium Underlying 
 
  • โดยค่าต่าง ๆ เป็นดังนี้
 
Credit line
 
  • วงเงิน Original Buy Limit
  • กำหนดจาก Back Office
  • ปรับปรุงแก้ไขค่าที่ Customer DB Maintenance
Buy_limit_multiplier_Futures Underlying
 
  • ค่าที่ใช้สำหรับหักวงเงิน buy limit เมื่อมีการเปิดสถานะ Futures ของหลักทรัพย์อ้างอิงต่างๆ (Underlying) เช่น S50, GOLD, PTT
  • กรณีเป็นสัญญา Combination Series สำหรับลูกค้าแบบ Margin Method = NET ระบบจะนำมาหักล้างกับ Position ปัจจุบันก่อน เพื่อหาจำนวนสัญญา Futures ที่เปิดสถานะเพิ่มเติม สำหรับหักวงเงิน buy limit
  • กำหนดค่าที่ Risk DB Maintenance ในระดับ Category
Buy_limit_multiplier_Options Underlying
 
  • ค่าที่ใช้สำหรับหักวงเงิน buy limit เมื่อมีการเปิดสถานะ Short Options ของหลักทรัพย์อ้างอิงต่างๆ (Underlying) เช่น S50, GOLD, PTT
  • กำหนดค่าที่ Risk DB Maintenance ในระดับ Category
#LF
 
  • จำนวณสัญญาของ Outstanding Long Open Futures ซึ่งหามาจากการนำจำนวนสัญญาจาก Portfolio, Outstanding Order และ New Order ทั้งหมดมารวมกัน
#SF
 
  • จำนวณสัญญาของ Outstanding Short Open Futures ซึ่งหามาจากการนำจำนวนสัญญาจาก Portfolio, Outstanding Order และ New Order ทั้งหมดมารวมกัน
Today_Long_options_premium Underlying
 
  • เป็นค่า Long Premium ทั้งหมดของ Order ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ และของ Order ที่เกิดจากวันก่อน ๆ ที่ยังมี Status เป็น Open
  • Price x Qty x Multiplier
  • Price
  • Outstanding Order Qty = Order Price
  • Match Qty = Match Price
Today_Commission+Today_VAT
 
  • เป็นค่า Commission และภาษีของ Order ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ และของ Order ที่เกิดจากวันก่อน ๆ ที่ยังมี Status เป็น Open