PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

ศูนย์การเรียนรู้
พอร์ตลงทุน VS พอร์ตชีวิต


พอร์ตการลงทุน VS พอร์ตชีวิต

 
สวัสดีครับ อยากให้เพื่อนๆ เรียกผมว่า “มิสเตอร์ฟิลลิป” มีไอเดียการลงทุนอยากจะแชร์กับเพื่อนๆ นักลงทุน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสดีได้แลกเปลี่ยนกับลูกค้ากองทุนหลายคน พบว่าลูกค้าของเราส่วนใหญ่มีการจัดสรรสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตการลงทุนของตัวเองเป็นอย่างดี แสดงว่ารู้ถึงประโยชน์ของการจัดสรรพอร์ตการลงทุนกันอยู่แล้ว
 
การจัดสรรพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่มุ่งเน้นให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายบนความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยเป็นการลงทุนใน “สินทรัพย์หลาย ๆ ประเภท ที่ได้ผลตอบแทนต่าง ๆ กัน ความเสี่ยงต่าง ๆ กัน” เช่น เงินสด หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการใช้สินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทอง น้ำมัน นาฬิกา ภาพวาด ถึงแม้พอร์ตจะไม่เหวี่ยงกำไรทีเป็น 100-200 เปอร์เซ็นต์ แต่ความเสี่ยงก็น้อยกว่าการทุ่มไข่ลงไปในตะกร้าใบเดียวเช่นกัน แต่เชื่อว่า มีเพื่อนนักลงทุนบางท่าน กำลังทุ่มทรัพย์สินทั้งหมดในชีวิตลงไปในพอร์ตการลงทุนทั้งหมดเลย โดยคาดหวังให้ได้ผลตอบแทนอย่างเต็มที่...มีใครทำแบบนี้บ้างครับ?

ตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมเองก็มุ่งเน้นจัดพอร์ตการลงทุนโดยมุ่งเน้นให้เกิดผลตอบแทนการลงทุนสูงสุด แถมยังมองการลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยลืมไปเลยว่า ชีวิตก็มีอีกหลากหลายมุมมองที่ควรได้รับการใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยง การวางแผนการเกษียณอายุ การวางแผนสุขภาพ การวางแผนการศึกษา การละเลยมุมมองเหล่านี้โดยหวังเพียงการทำกำไรให้ได้มากที่สุด ทำให้ “พอร์ตชีวิต” ของผมไม่สมดุล และเสียโอกาสในการใช้เครื่องมือการเงินที่มีประโยชน์มาก ๆ หลายตัว

ในมุมมองของผม “พอร์ตชีวิต” คือ การบริหารการเงินของตัวเองให้เหมาะสมกับชีวิตในแต่ละช่วงอายุของเราและครอบครัว เช่น คนมีลูกอาจจัดสรรทรัพย์สินตัวเองในหุ้น กองทุนรวม ประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง และหากเสียชีวิต ลูกจะมีเงินสินไหมจากประกันชีวิตมาใช้ในการศึกษา ทำให้การเสียชีวิตของเราไม่กระทบกับอนาคตของลูก หรือคนที่เป็นโสดอาจมองการจัดสรรทรัพย์สินของตัวเองในหุ้น กองทุนรวม ประกันบำนาญ และประกันสุขภาพระยะยาว เพื่อให้แน่ใจได้ว่าในวันที่ตัวเองเกษียณอายุ จะมีรายได้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเข้ามาอย่างสม่ำเสมอผ่านประกันบำนาญ มีเงินก้อนไว้ใช้ผ่านการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม และเมื่อเจ็บป่วยก็คนจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ ผ่านการวางแผนประกันสุขภาพระยะยาว ทำให้ไม่ต้องดึงความมั่งคั่งจากเงินก้อนที่สะสมไว้มาใช้

ผมมองความแตกต่างของการจัดพอร์ตชีวิตกับพอร์ตการลงทุนที่ “ความรอบด้าน” ครับ วันนี้เราต้องยอมรับครับ ว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีอยู่จริง และ 4 สิ่งนี้สามารถทำให้พอร์ตการลงทุนที่เราวางไว้ “แตก” ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักทำให้การลงทุนในสินทรัพย์หลายอย่าง เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ ฯลฯ เกิดความผันผวน หากเราลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด โดยละเลยการจัดเงินของเราไปลงในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนแน่นอนและความเสี่ยงต่ำ สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง หรือผลิตภัณฑ์การเงินสำหรับการบริหารความเสี่ยง ในวันที่ชีวิตเจอพายุ เช่น เศรษฐกิจถดถอย ตกงาน เจ็บป่วย เหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เราอาจถูกบังคับให้ต้องสลาย “พอร์ตการลงทุน” ของเราเอามาใช้ก็เป็นได้

วันนี้ไหน ๆ เพื่อน ๆ นักลงทุนก็มีการบริหารพอร์ตการลงทุนที่ดีอยู่แล้ว ผมเลยอยากชวนให้เพื่อน ๆ มาบริหารพอร์ตชีวิตกันอีกสักพอร์ต เพราะการจัดสรรพอร์ตชีวิตที่ดี พร้อมรับทุกกระแสความเปลี่ยนแปลง เหมาะสมกับช่วงวัยและช่วงชีวิต จะทำให้เราใช้ชีวิตได้ลื่นไหลมากขึ้นครับ