PhillipCapital PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

ศูนย์การเรียนรู้
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
ก่อนหน้านี้การออมเพื่อเกษียนโดยปกติ จะลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถึงแม้ว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นทางเลือก สำหรับการออมเพื่อเกษียน แต่ยังจำกัดอยู่ในบุคคลเพียงบางกลุ่ม ซึ่งก็คือพนักงานของบริษัท และ ของรัฐ นอกจากนี้ จำนวนเงินลงทุนยังจำกัดอยู่ที่ ห้ามเกินกว่าจำนวนที่นายจ้างลงทุนให้ มีบุคคลไม่น้อยที่ต้องการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะว่าไม่ใช่พนักงานของบริษัท หรือของรัฐ หรือ นายจ้างไม่เข้าร่วนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ ประกอบอาชีพอิสระ เพื่อให้ทางเลือก สำหรับบุคคลที่ต้องการออมเพื่อการเกษียน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์นี้

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพคืออะไร?
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ คือ กองทุนรวมแบบปิดที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพื่อได้รับเงินทุนปลอดภาษี สำหรับใช้จ่ายในช่วยวัยเกษียนอายุ และ ไม่ต้องการรับเงินรายได้ปัจจุบัน ในระหว่างระยะเวลาการลงทุน

สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
  • เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ได้รับการยกเว้นภาษีเต็มจำนวน แต่จำนวนเงินลงทุน ที่ได้รับการยกเว้นภาษีจะเท่ากับ ยอดรวมของรายได้ต่อปีที่ไม่เกิน 15% กับ เงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีนั้น รวมกันไม่เกิน 300,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ทำการขายเมื่อนักลงทุนมีอายุครบ 55 ปี และ ลงทุนในกองทุนมาแล้ว เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี
    จะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งจำนวน
  • การขายกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เนื่องจากสาเหตุของการทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต จำนวนเงินกองทุนที่ขายได้ทั้งหมด
    จะได้รับการยกเว้นภาษี

เงื่อนไขในการลงทุนกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
1.ผู้ลงทุนจะต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพอย่างน้อยปีละครั้ง และต้องไม่ระงับการลงทุนเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน
  ยกเว้นปีนั้นไม่มีรายได้ก็ไม่ต้องลงทุน
2.ผู้ลงทุนต้องลงทุนอขั้นต่ำ 3% ของเงินได้ในปีนั้น หรือ อย่างน้อย 5,000 บาทต่อปี แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า
3.ผู้ลงทุนจะต้องลงทุนเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี และ ลงทุนจนมีอายุครบ 55 ปี ถ้าผู้ลงทุนละเมิดเงื่อนไขใน 3 ข้อแรก หรือทำการขายบางส่วน
   ของกองทุน ก่อนครบระยะเวลาการลงทุน พร้อมทั้งผู้ลงทุนได้ประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับในช่วงเวลา 5 ปีเรียบร้อยแล้ว
4.ผู้ลงทุนสามารถนับระยะเวลาการถือหน่วยลงทุน ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพใหม่นี้ ต่อเนื่องกับระยะเวลาการลงทุนเดิมได้
5.ถ้าผู้ลงทุนได้ลงทุนมาเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี และ มีอายุ 55 ปีขึ้นไป หรือ เป็นบุคคลทุพพลภาพ ผู้ลงทุนสามารถถือครองหน่วยลงทุน
  ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพต่อไปได้ โดยจะซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม หรือไม่ก็ได้
6.เงินรายได้ที่ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และ ได้นำไปหักภาษีเรียบร้อยแล้ว เงินรายได้นี้ไม่สามารถนำไปหักภาษีได้อีกในปีต่อไป
7.ผู้ลงทุนไม่สามารถนำหน่วยลงทุนของกองทุนรวม เพื่อการเลี้ยงชีพไปจำหน่ายจ่ายโอน จำนำ หรือนำไปเป็นหลักประกัน

ประเภทเงินรายได้ที่อยู่ในข้อกำหนดของการลงทุน
  • เงินได้จากการจ้างแรงงาน เช่น ค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส เบี้ยเลี้ยง บำเหน็จ บำนาญ เป็นต้น
  • เงินรายได้จากการรับทำงานให้
  • เงินรายได้จากค่าลิขสิทธิ์
  • เงินได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ เช่น ด้านกฎหมาย การแพทย์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี และ ศิลปกรรม เป็นต้น
  • เงินได้จากการรับโอนมาทางมรดก
  • เงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และ การขนส่ง

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพลงทุนในอะไร ?
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ จัดอยู่ในประเภทเดียวกับหน่วยลงทุน ดังนั้นจึงสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ หรือ ประเภทสินทรัพย์เดียวกันกับหน่วยลงทุน เช่น ตราสารทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์

การคำนวณเงินรายได้ที่ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี
เพื่อความเข้าใจมากขึ้นในสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุน ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เราจะแสดงวิธีการคำนวณ
หาจำนวนเงินรายได้ที่ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี

        ตัวอย่าง : 
        คุณพึงมีเป็นพนักงานบริษัท มีรายได้ทั้งปี 600,000 บาท โดยในปีนี้คุณพึงมีจ่ายเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงิน 5% ของรายได้
        หรือ 30,000 บาท ถ้าคุณพึงมีต้องการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ อยากทราบว่า เงินได้จำนวนเท่าไรที่คุณพึงมีสามารถลงทุน
        ในกองทุน เพื่อให้ได้รับสิทธ์ประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 

              วิธีคำนวณ 
              
            รายได้ทั้งปี 600,000 บาท 
            จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 30,000 บาท

            เงินได้สุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษี 
            = เงินได้สูงสุดที่ได้รับยกเว้นภาษี - เงินจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 
            = 300,000 - 30,000 
            = 270,000 บาท 
            แต่ 15% ของเงินได้ของคุณพึงมี = 600,000 x 15% = 90,000 บาท 
            ดังนั้น คุณพึงมีสามารถลงทุน 15% ของรายได้ หรือ 90,000 บาท ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เพราะว่า เงินได้ที่ใช้ลงทุนนี้อยู่ใน
            ภายใต้จำนวนเงินได้สูงสุดที่ได้รับยกเว้นภาษี
       
       ตัวอย่าง : 
       คุณพอเก็บเป็นพนักงานบริษัทมีรายได้ในส่วนของค่าจ้างแรงงาน 1,500,000 บาท และ รายได้จากการประกอบอาชีพอิสระ 1,000,000 บาท
       รวมเงินได้ทั้งปีของคุณพอเก็บ เท่ากับ 2,500,000 บาท คุณพอเก็บเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัท โดยจ่ายเงินสะสมเข้า
       กองทุน 5% ของรายได้ทั้งปี เป็นเงิน 75,000 บาท ถ้าคุณพอเก็บต้องการนำเงินได้ ไปลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นจำนวน
       250,000 บาท คุณพอเก็บจะสามารถรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีจากเงินลงทุนทั้งหมดหรือไม่ 

             วิธีคำนวณ 

            รายได้ทั้งปี 2,500,000 บาท 
            Provident fund 75,000 บาท

            เงินได้สุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษี 
            = เงินได้สูงสุดที่ได้รับยกเว้นภาษี - เงินจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 
            = 300,000 - 75,000 
            = 225,000 บาท

            แต่ 15% ของเงินได้ของคุณพึงมี = 2,500,000 x 15% = 375,000 บาท 
            คุณพอเก็บต้องการลงทุน ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ด้วยเงินได้จำนวน 250,000 บาท แต่เนื่องจากเงินได้สุทธิสูงสุด ที่จะได้รับการ
            ยกเว้นภาษี เท่ากับ 225,000 บาท 
            ดังนั้น คุณพอเก็บจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี จากเงินได้ทั้งหมดที่นำไปลงทุน จำนวนเงินลงทุนที่ได้รับการยกเว้นภาษีคือ 225,000 บาท 

                                                                                                                   ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2546